หน้าหลัก ประวัติและสถานที่ติดต่อ วัตถุประสงค์ ตำรา หนังสือ ผลงานวิจัย บทความ ผลงานอื่น

 

 

 

 

คำนำ
 

           แม้กระทั่งทุกวันนี้ ยังไม่มีนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญคนใดที่สามารถให้ความหมายคำว่า รัฐประศาสนศาสตร์และแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ให้เป็นสากลหรือเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ นอกจากนี้ การศึกษาแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ของไทย มีได้หลายแนวทาง
ขึ้นอยู่กับผู้รู้หรือผู้เขียนแต่ละคนว่ามีจุดมุ่งหมายหรือยึดถือแนวทางใด เช่น ในปี พ.ศ. 2536 ได้มีการศึกษา “รัฐประศาสนศาสตร์ในประเทศไทย : ผลงานของนักวิชาการไทยสมัยใหม่” โดยศึกษาแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ของนักวิชาการไทยด้านรัฐประศาสนศาสตร์ที่เขียนแสดงผลงานของตนไว้ในหนังสือ บทความ หรือเอกสารทางวิชาการต่าง ๆ เป็นต้น

          การศึกษา เรื่อง “แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(พ.ศ. 2540) และรัฐธรรมนูญฉบับสำคัญ” มุ่งพิจารณาศึกษาแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ได้ร่วมกันยกร่างและผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา  รัฐธรรมนูญนั้นเป็นกฎหมายแม่บทหรือกฎหมายสูงสุดของประเทศ กฎหมายทั้งหลายของประเทศที่เปรียบเสมือน เป็นกฎหมายลูก ไม่ว่าจะตราออกมาก่อนหรือหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ต้องมีบทบัญญัติที่สอดคล้องกับ
บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ และหากมีปัญหาเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย ยิ่งไปกว่านั้น หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องนำบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไปเป็นแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดินหรือปฏิบัติราชการเพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชน

        การศึกษาครั้งนี้ จึงเป็นอีกมุมมองหรืออีกแนวทางหนึ่งที่แตกต่างจากผลงานทางวิชาการด้านรัฐประศาสนศาสตร์ในอดีต โดยยังไม่นับรวมถึงการนำวิชาความรู้ด้านกฎหมายมหาชนมาผสมผสานกับความรู้ด้านรัฐประศาสนศาสตร์อีกด้วย  การศึกษาแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์นั้นมุ่งเน้นในส่วนที่เกี่ยวกับภายในและภายนอกองค์กรเฉพาะที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น ภายในองค์กร หมายถึง มุ่งศึกษาเรื่องโครงสร้าง อำนาจหน้าที่และกระบวนการบริหารจัดการซึ่งประกอบด้วยการบริหารงาน คน และเงินที่เกี่ยวกับภายในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ ส่วนภายนอกองค์กร หมายถึงศึกษาแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนและชุมชน รวมตลอดถึงภาคเอกชนและองค์การเอกชน พร้อมกันนั้น ยังนำแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) ไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับสำคัญอื่นซึ่งรวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ

           อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ที่คณะบุคคลที่ร่วมกันยกร่างรัฐธรรมนูญของไทย ไม่เคยคิดที่จะนำแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ทั้งภายในและภายนอกองค์กรดังกล่าวไปบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องจากแนวคิดในเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องพื้นฐานที่รู้จักคุ้นเคยกันทั่วไป หรือไม่อาจชี้เฉพาะได้ว่าเป็นแนวคิดทางวิชาการของสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ประกอบกับนักวิชาการบางสาขา เช่น กฎหมายมหาชน หรือรัฐศาสตร์ อาจมองว่าเป็นแนวคิดของสาขาวิชาตนได้เช่นกัน แต่ในที่นี้ผู้ศึกษาได้ใช้มุมมองด้านรัฐประศาสนศาสตร์เป็นหลักในการศึกษา วิเคราะห์ และเปรียบเทียบ โดยจะนำความรู้ด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์มาเป็นส่วนเสริม ทั้งนี้ คาดหวังว่าจะเกิดประโยชน์ทางวิชาการ เช่น เป็นการพัฒนาแนวคิดและช่วยเพิ่มคุณค่าของวิชารัฐประศาสนศาสตร์ให้เป็นวิชาชีพมากขึ้นเพราะแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้ถูกนำไปบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังจะเกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติด้วย เช่น เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพื้นฐานความรู้ทางรัฐประศาสนศาสตร์จะเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น และสำหรับของประชาชน หากนำไปแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ไปศึกษาจะได้รับความรู้ความเข้าใจการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และกระบวนการบริหารจัดการของหน่วยงานของรัฐ

           การศึกษาครั้งนี้เป็นลักษณะของการวิจัยเอกสาร ใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 2 เดือน จึงอาจมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นได้ ซึ่งผู้ศึกษาจะรวบรวมและนำไปแก้ไขปรับปรุงในโอกาสต่อไป สำหรับข้อดีถ้าเกิดมีขึ้น ผู้เขียนขอมอบให้แก่นักศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตใจและการกระทำที่คิดและทำนอกกรอบเพื่อส่วนรวมในทิศทางที่ดีหรือคาดว่าดีกว่าเดิม แม้จะได้รับแรงต่อต้านก็ควรมีจิตใจแน่วแน่มั่นคงไม่ท้อถอย ในเวลาเดียวกัน ผู้ศึกษาไม่ลืมที่จะมอบความดีนี้ให้แก่ 
นางสาววรรณวิรัช วิรัชนิภาวรรณ ลูกสาวที่ตั้งใจเล่าเรียนหนังสือ นำความภาคภูมิใจมาสู่พ่อแม่ และยังได้รับการปลูกฝังให้มีความคิดและการกระทำเพื่อสังคมอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ

 

                                         วิรัช วิรัชนิภาวรรณ

                                         สาขาวิชาวิทยาการจัดการ

                                         มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ถนนแจ้งวัฒนะ

                                         อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

                                         โทรศัพท์ 02-504-7777 ต่อ 8181-5

                                         เว็บไซท์ : www.wiruch.com

                                         e-mail address : msaswwir@stou.ac.th

                                         หรือ wiruch@wiruch.com

                                         29 กุมภาพันธ์ 2547

 

 

สารบัญ

 

คำนำ

สารบัญ  

สารบัญภาพ  

สารบัญตาราง


บทที่ 1 บทนำ

          1. ความสำคัญของเรื่องที่ศึกษา 

          2. วัตถุประสงค์ของการศึกษา 

          3. ขอบเขตของการศึกษา 

          4. ข้อจำกัดของการศึกษา 

          5. ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง 

          6. กรอบแนวคิดที่ใช้ในการศึกษา 

          7. ระเบียบวิธีการศึกษา 

          8. คำจำกัดความ

          9. ประโยชน์ที่จะได้รับจากการศึกษา

         10. สรุป 

บทที่ 2 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการศึกษาแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ไทย  

          1. การให้ความหมายของคำหรือถ้อยคำในทางสังคมศาสตร์ 

          2. กลุ่มคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับแนวคิด 

      3. การจัดแบ่งกลุ่มเพื่อศึกษา 

          4. สรุป 

บทที่ 3 แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ไทยในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(พ.ศ. 2540)  

          1. แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวกับภายในองค์กร 

                    1.1 แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวกับโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ 
                   
1.2 แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนการบริหารจัดการ 

      2. แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวกับภายนอกองค์กร 

                    2.1 แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวกับประชาชนและชุมชน 

                    2.2 แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์เกี่ยวกับภาคเอกชนและองค์การเอกชน 

                    3. สรุป 

บทที่ 4 วิเคราะห์เปรียบเทียบแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับสำคัญ 7 ฉบับ

         1. รัฐธรรมนูญไทย 16 ฉบับ 

         2. การวิเคราะห์เปรียบเทียบ 

         3. สรุป 

บทที่ 5 ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

         1. บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในอดีต 

         2. นโยบายของรัฐบาล ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี 

         3  สมาชิกรัฐสภา และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 

         4. การเรียกร้องของประชาชน 

         5. สถานการณ์บ้านเมือง 

         6. อิทธิพลของกระแสโลก  

         7. การแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในภูมิภาค และโลก 

         8. สรุป 

บรรณานุกรม